Home แนวคิดชีวิต (เรื่องนี้เขียนได้ดีมาก) ต่อให้รวยแค่ไหน แต่ต้องสอนลูกให้รู้จักความจน

(เรื่องนี้เขียนได้ดีมาก) ต่อให้รวยแค่ไหน แต่ต้องสอนลูกให้รู้จักความจน

6 second read
0
3,657
(เรื่องนี้เขียนได้ดีมาก) ต่อให้รวยแค่ไหน แต่ต้องสอนลูกให้รู้จักความจน

(เรื่องนี้เขียนได้ดีมาก) ต่อให้รวยแค่ไหน แต่ต้องสอนลูกให้รู้จักความจน

ในวันนั้น ผมได้พาลูกไปร้าน เครื่องเขียนแห่งหนึ่ง ลูกของผม อ ย า ก ได้กล่องดินสอ มองหน้าพ่อแล้วบอกว่า อ ย า ก ได้แบบนี้แบบนี้ ลูกของผมเลือกแบบหรูหรา แต่ผมให้ซื้อแค่แบบธรรมดา ที่ใช้งานได้เหมือนกัน

ลูกทำหน้างอทันที ร้อง อ ย า ก ได้ไม้บรรทัด ก็ อ ย า ก ได้แบบสวยงาม แต่ผมก็ให้เลือกแบบแค่ พื้นฐานใช้งานได้เหมือนกันเพียงเท่านั้น ลูกก็ทำหน้าหงิกหน้างอเข้าไปอีก ผมไม่ได้ว่าอะไร ตั้งใจก่อนนอนคืนนี้

จะชี้แนะลูกด้วยการ เล่านิทานเปรียบเปรย ให้เข้าใจหลังจากได้เป็นพ่อคนแล้ว ผมตั้งใจจะเลี้ยงลูกไม่ให้เหมือน แบบที่ชาวเอเชียเขานิยมทำกัน ที่มักไม่ยอมให้ลูกลำบาก ดูแลปกป้องแบบไข่ในหิน ประคบประหงม

เกินพอดีหลายปี ผ่ า น ไป ผมรู้สึกว่าวิธีการเลี้ยงลูกของ ผมจะลำบากมากขึ้นทุกวัน จนกระทั้งวันหนึ่ง ผมได้ อ่ า น จดหมายเปิดผนึกฉบับหนึ่ง ที่โพสต์ลงในบอร์ด ของมหาวิท ย า ลัยนานกิง จดหมายจากผู้ใช้นานว่า พ่อผู้ขมขื่น

เขียนถึงลูกเขา ที่เป็นนักศึกษาในมหาวิทย าลัยนั้น แต่ไม่ได้เปิดเผยชื่อลูก จดหมายฉบับนี้มี คุณค่ามากในสายตาของผม ถึงลูกรักของพ่อแม้ลูกจะทำให้พ่อ ทุ ก ข์ ใจเกินบรร ย า ย แต่ลูกก็ยังเป็นลูก ของพ่ออยู่วันยังค่ำ

หลังจากที่ลูกสามารถ สอบเข้ามหาวิทย าลัยได้แล้ว อาจเป็นเพียงคนเดียวของตระก ูลเราในรอบหลายชั่ วอายุคนที่ทำได้สำเร็จ หลังจากนั้นพ่อชักไม่แน่ใจว่าตกลงใครเป็นพ่อ และใครเป็นลูกกันแน่ต่อม ลูกหมาก

ของผมลดลง 3 เท่า เมื่อลองทำวิธี รั ก ษ า วิธีนี้ พ่อช่วยแบก สัมภาระไปส่งลูกถึงหอพัก ช่วยกางมุ้ง ปูที่นอนซื้อกับข้าวกับปลา ต้องสอนแม้กระทั่งวิธีบีบ ย า สี ฟั น ออกจากหลอด ทั้งหลายทั้งปวง ดูเหมือนว่ามันเป็นหน้าที่

ที่พ่อสมควรต้องทำให้ ไม่ได้ยินคำว่าขอบคุณสักคำ จากลูกตั้งแต่ต้นจนจบ รู้สึกด้วยซ้ำว่าเป็นเกียรติ อันยิ่งใหญ่ที่พ่อผู้ด้อยความสามารถ คนนี้มีโอกาสได้รับใช้ลูกทูนหัว ที่บัดนี้ได้เป็นนักศึกษา ผู้ทรงเกียรติไปแล้วปีแรกทั้งปี

ที่บ้านได้รับ จดหมายจากลูกสามฉบับ ข้อความรวมกันแล้วอาจ ย า ว กว่าข้อความใน โทรเลขหนึ่งฉบับสักหน่อย ข้อความย่นย่อ ลายมือหวัด อ่ า น ย า ก มีแต่คำว่า เงิน นี่ตั้งใจเขียนได้ชัดเจน ที่สุดพอขึ้นปีที่สอง

จดหมายมาแบบถี่ๆ ล้วนขอเงินเพิ่ม ลีลาการเร่งเร้าให้ส่งเงิน ข้อความที่เรียกร้องความเห็นใจ รับรู้ได้ถึงว่า หากเรียนจบแล้ว ลูกสามารถไปยึดอาชีพเป็นพวกเจ้าหน้าที่ เร่งรัดหนี้สินได้เยี่ยมแน่นอน แต่สิ่งที่ทำให้พ่อ เ จ็ บ ป ว ด

ที่สุดนั้น มาจากการที่ลูก อาจหาญถึงขั้นปลอมแปลงตัวเลข จำนวนเงินที่ต้องจ่าย ค่าหน่วยกิตของมหาวิทย าลัย ไม่คิดว่าลูกจะใช้วิธีนี้ มาหลอกลวงเงินทองจาก ผู้เป็นพ่อแม่ที่ให้กำเนิด เลี้ยงดู รักใคร่ลูกมาตลอด

เพียงเพื่อ อ ย า ก ได้เงินเพิ่ม ไปเที่ยวผับเที่ยวบ า ร์และร้องคาราโอเกะ คิดถึงเรื่องนี้เมื่อไหร่ก็ เ จ็ บ ป ว ด เมื่อนั้น นอนไม่หลับ จนกลายเป็น โ ร ค ซึ ม เ ศ ร้ า สาเหตุก็มาจากลูก คนที่พ่อเลี้ยงดูด้วย มือจนเติบใหญ่

แต่กลับกลายเป็นคน แปลกหน้าในร่างของนักศึกษา ขอภาวนาในใจว่า นอกจากวิชาความรู้ต่างๆ ที่ลูกจะเรียนรู้จากสถาบัน การศึกษาแล้ว ลูกจะกรุณาพัฒนาจิตใจ ให้เป็นคนซื่อสัตย์ และกตัญญูรู้คุณด้วย ก็จะเป็นเรื่อง

ที่ดีที่สุดหลังจากได้ อ่ า น จดหมายฉบับนี้แล้ว ผมรู้สึกว่าผมยังต้อง เดินหน้าทำตามนโยบาย ในการดูแลลูกตาม ที่ตั้งใจไว้แต่แรก แม้จะรู้ว่ามันค่อนข้างลำบากในสังคม ของเรามีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนสมัยเรียนที่ย้ ายไป

ออสเตรเลียก ลับมาเยี่ยมบ้าน มีโอกาสได้นั่งคุยกัน เขาเล่าว่า คนออสเตรเลียนอกจา กเชื่อถือในพระเจ้าแล้วอีกสิ่งหนึ่ง ที่พวกเขาเชื่อมั่น ก็คือ วิธีการเลี้ยงลูกแบบ จะรวยแค่ไหน ก็ต้องเลี้ยงลูกแบบจน พวกเขาเชื่อว่า

เ ด็ ก ที่เติบโตขึ้นมาภายใต้การดูแล ปกป้องมากไปของพ่อแม่ เมื่อโตแล้วจะไม่มีปัญญา ที่สามารถยืนอยู่บนลำแข้งตัวเอง และก็จะไม่มีวันสำนึกบุญคุณคนอื่น แม้กระทั่งพ่อแม่ ตนก็ตามวันถัดมาเรามีโอกาสออกไป

ทำธุระด้วยกัน เจอฝนระหว่างทางเขาเห็น เ ด็ ก น้อยถูกห่อหุ้มด้วยผ้านวม อ ย่ า ง หนากลมไปหมดทั้งตัวจนดูคล้าย ลูกบอลยัดนุ่น เขาบอกว่า เ ด็ ก ควรจะใส่เสื้อผ้ าน้อยกว่าผู้ใหญ่หน่อย เขาเล่าว่าในออสเตรเลียแม้

หน้าหนาวก็ จะไม่เห็น เ ด็ ก ที่ถูกห่อแบบ ลูกบอลยัดนุ่น เหมือนที่เห็น หรือในวันแดดจ้า แม้ เ ด็ ก จะนั่งอยู่ในรถเข็น เ ด็ ก แต่คนเป็นแม่ ก็จะทำใจแข็ง ไม่ยอมดึงที่ บังแดดออกมากันแดดให้ลูก เ ด็ ก ที่วิ่งเล่นแล้วหกล้มเอง

พ่อแม่ก็จะยืนดูเฉยๆ ให้ลูกลุกขึ้นมาด้วยตัวเขาเอง ต่างๆ นาๆ ล้วน พ ย  า ย า ม ให้ลูกฝึกช่วยตัวเองและอดทนให้มากที่สุด ธรรมเนียมของครอบครัว ชาวเอเชีย อ ย่ า ง พวกเรา หลักการที่ยึด ติ ด มานานกับนโยบายที่ว่า

จะ ย า ก จนแค่ไหน ก็ไม่ยอมให้ลูกต้องลำบาก สงสัยจะถึงเวลาต้องทบทวน กันใหม่ได้แล้ว การเลี้ยงลูกของสัตว์ ทั้งหลายในโลกนี้ ตอนลูกยังเล็กและอ่อนแอ บางชนิดอมลูกไว้ในปาก บางชนิดซุกลูกไว้ใต้ปีก

กลัวลูกๆจะไม่ปลอด ภั ย แต่พอลูกเริ่มโต ได้ที่แล้วพวกเขาจะไล่ลูกออกไป อ ย่ า ง ไร้เยื่อใย ให้ลูกไปเผชิญกับโลก ภายนอกเอง ไปฝึกวิทย ายุทธเอง ไปเผชิญปัญหา และมรสุมทุกรูปแบบ แล้วชีวิตจะไม่เจอทางตัน

เห็นหรือยังว่าแม้แต่ สัตว์ทั้งหลาย ยังรู้ถึงหลักการที่ว่า โอ๋ลูกจนไม่ลืมหูลืมตา ก็คือการฆ่ าลูกแบบเลื อ ดเย็น จะรวยแค่ไหน ก็ต้องเลี้ยงลูกแบบจน ด้วยวิธีนี้จะบังคับให้ลูกๆ ทั้งหลายรู้จักยืนอยู่ บนลำแข้งตัวเอง และรู้จักสำนึก

และตอบแทนบุญคุณ คนเป็นพ่อเป็นแม่สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรลืม ถึงแม้คุณจะห่วงด้วยวิธีปกป้อง หรือโอ๋ลูกขนาดไหนก็ตาม คุณคงไม่มีปัญญาตามไปวุ่นวายหรือดูแลพวกเขาใ นช่วงครึ่งหลังของชีวิตเขา เพราะตอนนั้ นคงได้เวลาที่คุณจะได้หลับย าวไปแล้ว

ขอขอบคุณที่มา ขจรศักดิ์, verrysmilejung

Check Also

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า 1 งานนี้ไม่ใช่งานในความรับผิดชอบ แม้ไม่ใช่งาน ในค…