Home แนวคิดชีวิต 5 วิธี ที่หัวหน้าใช้ในการจัดการลูกน้องที่มีปัญหา

5 วิธี ที่หัวหน้าใช้ในการจัดการลูกน้องที่มีปัญหา

16 second read
0
440
5 วิธี ที่หัวหน้าใช้ในการจัดการลูกน้องที่มีปัญหา

5 วิธี ที่หัวหน้าใช้ในการจัดการลูกน้องที่มีปัญหา

1 ตรวจสอบว่าลูกน้องมีปัญหาเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัวก่อน

ในฐานะเจ้านาย เมื่อพบว่า ลูกน้องมีปัญหา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีสองแบบ

คือปัญหา ด้านการทำงานที่ย่ำ แ ย่ ลงและปัญหาส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นดราม่า

ชนิดต่างๆ ความ ทุ ก ข์ จากสถานที่ทำงาน ปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง

กับเพื่อนร่วมงาน ความขัดแย้งอื่นๆ ซึ่งคุณเองจะต้อง วิเคราะห์ให้ดีก่อนว่า

ปัญหาของลูกน้อง นั้นน่าจะมาจากอะไร ถ้าปัญหาเกิดจาก ประสิทธิภาพ

การทำงานที่ต่ำลง คุณจะได้ช่วยเหลือพวกเขา ให้ทำงานได้ดีขึ้น

แต่ถ้าเป็นปัญหาส่วนตัว คุณจะต้องเช็คให้ละเอียด ว่าควรจะช่วย

ให้พวกเขา ผ่ า น พ้นหรือแก้ไขปัญหา นี้ได้ อ ย่ า ง ไร

2 เรียกมาคุยเรื่องทัศนคติแบบสองต่อสองด้วยทักษะนักขาย

เมื่อวิเคราะห์ได้แล้วว่า ลูกน้องของ คุณมีปัญหาจริง จงทำนัดเรียกเขา

มาคุยกันแบบ ปิดห้องคุย ตัวต่อตัวทันที และจงใช้หลักการขายที่คุณ

จะต้องเป็นที่ ปรึกษาให้กับลูกค้า เพียงแต่เปลี่ยนจากลูกค้า มาเป็นลูกน้อง

เพื่อถามคำถามที่ดีจนเขาคาย ข้อมูลที่ซ่อนอยู่ออกมา เก็ตไหมครับ ยิ่งคุณถามได้ดี

และเจาะลึกให้ลูกน้องพูด หรือระบายมากขึ้นเท่าไหร่ คุณยิ่งได้ข้อมูล

เพื่อใช้ตัดสินลูกน้องว่า จะทำยังไงต่อไปได้ง่ายขึ้น คุณเองก็จะต้องเป็นนักฟังที่ดี

ด้วยว่าลูกน้องของ คุณต้องการจะสื่ออะไร เช่น ถ้าลูกน้องมี ตัวเลขที่ไม่ดี

พวกเขาอ้างว่าเป็นเพราะ เศรษฐกิจ แ ย่ คู่แข่งตัดราคา ลูกค้าไม่มีเงิน อะไรทำนองนี้

แต่พอถามว่าวันนึง หาลูกค้ากี่ราย กลับตอบว่าแค่ 1-2 ราย คุณจะได้รู้แล้วว่าจริงๆ

แล้วลูกน้องของคุณ ทำกิจ ก ร ร ม การขายน้อย เกินไปเท่านั้นเอง ซึ่งคุณสามารถ

ช่วยพวกเขาด้วยการ เพิ่มกิจ ก ร ร ม การขาย ให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น

3 ถ้าพวกเขามีปัญหากับคุณ จงถามพวกเขาตรงๆ

ปัญหาที่เกิดขึ้น ระหว่างคุณกับลูกน้อง คุณจะต้องวางตัวเป็นกลางมากๆ

อ ย่ า เข้าข้าง ตัวเองเป็นอันขาด บางทีลูกน้องไม่ชอบข ี้หน้าคุณจากคำพูด

บาง อ ย่ า ง ที่คุณอาจไม่ทันคิด หรือการกระทำบาง อ ย่ า ง ที่ลูกน้องไม่ชอบ

แต่พวกเขาไม่พูด จงถามพวกเขา แบบเปิดใจไปตรงๆ เลยว่าคุณพร้อมจะรับฟัง

สิ่งที่พวกเขาไม่พอใจ อ ย่ า มีอีโก้ในเรื่องนี้เด็ดขาด เหตุผลจากปากลูกน้อง

จะเป็นสิ่งที่ คุณต้องเอาไป คิดว่าคุณผิดจริงมั้ย คุณพร้อมจะปรับ ความเข้าใจ

กับพวกเขาจริงๆ หรือเปล่าถ้า คุณพบว่าสาเหตุมาจาก การกระทำบาง อ ย่ า ง

ของคุณที่ ทำให้พวกเขาไม่พอใจ และเป็นสิ่งที่คุณคิด ดูแล้วว่าถ้าคุณเป็น

ลูกน้องคนนั้น แล้วมีเจ้านาย มาปฎิบัติกับคุณแบบนี้ ซึ่งคุณก็ไม่พอใจ

คุณสามารถบอก กับลูกน้องได้ว่าคุณจะปรับการ ทำงานหรือระมัดระวังเรื่อง

ความสัมพันธ์ ให้ดีกว่านี้ จริงๆ แล้วไม่ผิดที่คุณ จะกล่าวคำขอโทษลูกน้อง

ถ้าคุณผิดจริง ไม่ได้หมายความว่า ให้หงอลูกน้องนะครับ คนละเรื่องกัน

คำขอโทษเป็นสิ่งที่ พูดแล้วทุก อ ย่ า ง จะดีขึ้นเสมอ คุณจะกลายเป็นคนที่

เข้าถึงง่าย มีความ รับผิดชอบ มีความเป็นผู้นำ ที่แท้จริง

และได้ศรัทธา จากลูกน้องมากขึ้น ลองทำดูนะครับ

4 ถ้าพวกเขามีปัญหาเกี่ยวกับงาน จงลงมือจัดการเรื่องการทำงานของพวกเขา

ปกติแล้วปัญหา เรื่องงานมีอยู่ไม่กี่แบบ หลักๆ ก็คือไม่ชอบงานที่ทำ

คุณสามารถคุยกับพวกเข าได้ว่าพวกเขาชอบ ทำงานแบบไหน เผื่อปรับเปลี่ยน

ตำแหน่งงานได้ แต่ถ้าไม่มีตำแหน่งใหม่ ให้ก็เอาออกไป เหอะเนอะแล้ว

อีกเรื่องก็คือการ ทำงานที่ไม่ได้ผลลัพธ์ตามเป้า คุณจึงต้องมีข้อมูลบันทึก

การทำงาน แบบวัดผลได้ เช่น ตำแหน่งนักขาย วัดผลได้ตั้งแต่จำนวน

ลูกค้าในมือ รายชื่อ จำนวนนัดต่อวัน จำนวนใบเ สนอราคาที่ส่ง จำนวน

การ ติ ด ตามงาน ฯลฯ ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกว่านักขาย แต่ละคนทำงานหนัก

จริงตามที่ คุณกำหนดไว้หรือไม่ ถ้าทำงานได้ต่ำกว่า มาตรฐานเพราะ

ไม่ทำกิจ ก ร ร ม การขายตาม ตัวเลขที่คุณสอนไว้ คุณจะได้ลงไปเฆี่ยน

วินัยการทำงาน ของพวกเขาให้ดีขึ้น เป็นต้น ผมถึงบอกเสมอว่า

การทำรายงานการขาย Sales Report นั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำ

และมีความสำคัญ ในการวัดผลการทำงาน ของลูกน้องมากๆ ถ้าคุณปล่อย

ปละละเลย ไม่เน้นให้ลูกน้อง ทำเรื่องพวกนี้คุณจะไม่รู้เลยว่า พวกเขาทำงานดีหรือไม่ดีกันแน่

5 ไล่ตัวปัญหาออกจากงาน

ในฐานะเจ้านายที่มี อำนาจในการบริหารคน ถ้าคุณได้ พ ย า ย า ม แก้ไข

หรือพูดคุยทุกวิถีทางแล้ว แต่ลูกน้องเจ้าปัญหาขอ งคุณก็ยังไม่ดีขึ้น

โดยที่คุณก็พบว่า ลูกน้องคนอื่นไม่ได้มี ปัญหาอะไรกับคุณ มีแต่มันคนเดียว

ที่ยังไม่ยอมจบ ฮา วิธีการที่เป็นมืออาชีพ มี ดังนี้  แจ้งฝ่ายบุคคลให้เรียบร้อย

ว่าจะไล่เขาออก ถ้าไม่อย ากให้บริษัท เสียผลประโยชน์ เรื่องการจ้างพนักงานออก

ให้ออกจดหมาย ตักเตือนฉบับแรก และฉบับที่สอง พร้อมลายเซ็น

รับทราบจากลูกน้อง แต่ถ้ามันไม่ยอมเซ็น ก็ไล่มันออกได้เลยครับ

ต้องจ่ายชดเชย 3-4 เดือน ถือว่าคุ้มสำหรับ การไล่พนักงานเจ้าปัญหา

พวกนี้เก็บเอาไว้ ก็เสียข้าวสุกเปล่าๆ ฮา ถ้าพนักงานทำผิด ร้ า ย แ ร ง

เช่น ทุจริต โ ก ง โดน ศ า ล ตัดสินคดีอาญา ทำ ร้ า ย ร่ า ง ก า ย ขาดงาน ติ ด ต่อ

กันโดยไม่แจ้งบริษัท สร้างความเสียหายให้บริษัทฯ ฯลฯ ถ้ามีหลักฐานแล้ว

ก็สั่งเช็คบิล โดยไม่ต้องจ่ายชดเชย ได้เลยครับ ต้องรีบถีบให้พ้นๆ บริษัท

ทุก อ ย่ า ง ที่เกิดขึ้น จะต้องทำให้รวดเร็วและ ไม่มีการต่อรอง ทุกกรณี

เพราะถ้าเก็บคนเหล่านี้ ไว้นานๆ พวกเขาจะกลายเป็น ม ะ เ ร็ ง ร้ า ย ให้กับคนอื่นๆ

ที่ทำงานดีในบริษัท และจะลากคนดีๆ ให้กลายเป็นคนห่วยๆ ได้อีกด้วย

การไล่ออกจะต้องยึดความเป็นมืออาชีพเสมอ ไล่ออกด้วยข้อมูล

เช่น ถ้าทำงานไม่ดี ควรมีข้อมูลประกอบว่าตัวเลข อะไรที่ทำให้พวกเขาถือว่า

ทำงานไม่ดี และจะต้อง ตั้งอยู่ในสภาวะที่ จากกันด้วยดี อีกด้วย มิเช่นนั้นแล้ว

เมื่อเวลาผ่ า น ไปแล้ว พวกเขาได้ดิบได้ดี พวกเขานี่แหละ ที่จะมาไล่ขยี้

คุณทีหลัง ไม่เผาผี เป็น ศั ต รู กับคุณตลอดชีวิต เอาคุณไปด่าซ้ำย ามคุณตกต่ำ

อีกด้วยครับ พวกเขาจะรอคุณพินาศ และเอาไปพูดจนสนุกปากแน่นอน อ ย่ า พลาดล่ะ

จริงๆ แล้วเรื่องนี้ ยังต้องลงลึกเกี่ยว กับการจัดการ ลูกน้องเจ้าปัญหาแต่ละแบบ บทความนี้

จึงขอพูดแบบกว้างๆ เอาไว้ก่อนนะครับ แล้วผมจะเขียนวิธีจัดการ ลูกน้องแต่ละ แบบต่อไปครับ

ขอขอบคุณที่มา s a l e s 1 0 0 m i l l i o n, sabailey

Check Also

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า 1 งานนี้ไม่ใช่งานในความรับผิดชอบ แม้ไม่ใช่งาน ในค…