Home แนวคิดชีวิต เรื่องเตือนใจ บาปกรรมของคนที่ยืมเงินแล้วไม่คืน

เรื่องเตือนใจ บาปกรรมของคนที่ยืมเงินแล้วไม่คืน

6 second read
0
3,756
เรื่องเตือนใจ บาปกรรมของคนที่ยืมเงินแล้วไม่คืน

เรื่องเตือนใจ บ า ป ก ร ร ม ของคนที่ยืมเงินแล้วไม่คืน

หากคุณเคยให้เพื่อน หรือใครสักคนยืมเงิน เชื่อว่าคงจะเข้าใจลึกซึ้ง ถึงความหมายของประโยคที่ว่า ถ้าไม่ อ ย า ก เสียเพื่อน อ ย่ า ให้เพื่อนยืมเงิน ตอนมายืมสุดเศร้า เล่าความลำบาก เเต่เมื่อถึงกำหนดไม่ยอมคืน

บางคนต้องบากหน้าไปทวง แต่ก็ยังไม่ได้คืน ต้องเสียเพื่อนไปเพราะเงิน ไม่เท่าไหร่มาหลายคนแล้ว แม้เราจะทำอะไรเขาไม่ได้ แต่ บ า ป ก ร ร ม ทำหน้าที่ของมันเสมอ วันนี้เราได้นำบทความที่ถูก ถ่ายทอดลงในเพจ Dungtrin

โดย ดังตฤณ หรือ ศรันย์ ไมตรีเวช นักคิดนักเขียนแนวธรรมะ ที่ล่าสุดในเขียนในหัวข้อ ยืมเงินแล้วไม่คืน จะได้รับผล ก ร รม อย่ า งไร ไว้ อ ย่ า ง น่าสนใจ โดยสรุปได้ว่า ผล ก ร ร ม ของการยืมเงิน ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

เพราะจะแปรไปตามเจตนาของผู้ยืม บางคนยืมแล้วเจตนาจะคืน แต่มีเหตุให้ไม่สามารถคืนได้ ผล ก ร ร ม ย่อมแตกต่างจากผู้ที่ยืม และมีเจตนาว่าจะไม่คืน หรือบอกผลัดไปเรื่อยๆ ทำให้ผู้ให้ยืมเดือดร้อนใจ เป็น ก ร ร ม ทางใจ

อยู่ที่จะเลือกต่อ เ ว ร หรือหยุ ดเ ว ร แม้ในทางโลกจะเหมือนเราเสียเงินให้เขาฟรีๆ แต่ทางธรรมคือเรายกหนี้ ก ร ร ม ให้เขาไปแบกแทน ให้ลองย้อนตั้งคำถามกับตนดูว่าสมควรจะโกรธ แ ค้ น ตัว ต า ย ตัวแทนนี้อยู่หรือไม่

โดยเนื้อหาของบทความ ฉบับเต็มมีดังนี้ ยืมเงินแล้วไม่คืน ผลอาจไม่เหมือนกัน ต้องดูที่ตัว ก ร ร ม ของแต่ละคน เมื่อรู้ว่า ก ร ร ม เป็น อ ย่ า ง ไร ก็จะพออนุมานถูกว่า ผล ก ร ร ม น่าจะประมาณไหน รูปแบบของ ก ร ร ม แปรไปตามเจตนา

รวมทั้งความสามารถ ที่จะทำให้สำเร็จตามเจตนาด้วย เช่น บางคนยืมด้วยความตั้งใจคืน อาจมีข้อสัญญาชัดเจนว่า จะคืนเมื่อใด ให้หรือไม่ให้ ด อ ก เบี้ย แล้วคืนได้ตามนั้น พร้อมของแถมตามข้อตกลง ผลที่เกิดขึ้นทันที

คือความผูกพันในทางดี เป็นที่น่าเชื่อถือสำหรับกัน และกัน ฝ่ายให้ ถือว่าได้บุญที่ให้โอกาส ฝ่ายรับ ถือว่าได้บุญที่ได้ทำตามที่พูด มีความสุข มีความเป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ บางคนยืมด้วยการตั้งใจคืน เสร็จแล้วคืนไม่ได้ ชนิดสุดวิสัย

อ ย่ า ง นี้ไม่ได้ตั้งใจโกง ไม่ได้ผิดศีลข้อ ๒ แต่ผลที่เกิดขึ้นทันทีในชาติปัจจุบัน คือ ความทรมานใจ การขาดความนับถือตัวเอง และการไม่เป็นที่น่าเชื่อถือของคนอื่นส่วน ผลในชาติถัดไปก็พอสมน้ำสมเนื้อ เช่นที่ให้เงินใครยืมแล้วไม่ได้คืน

เพราะเหตุสุดวิสัยของลูกหนี้ เป็นต้น บางคนยืมด้วยความตั้งใจ เรื่อยๆมาเรียงๆ ไม่ ฟั น ธง ไม่แน่ใจว่าจะคืนเมื่อไร คิดเผื่อไว้แค่แผ่วๆว่า เดี๋ยวมีมากๆค่อยให้ แบบนี้เหมือนก้ำกึ่ง เพราะทำไปๆมีสิทธิ์พลิกจาก เดี๋ยวจะคืน เป็น ไม่คืนดีกว่า

เอาได้ง่ายๆ ถึงจุดหนึ่งคนพวกนี้จะลืม ความสัมพันธ์เก่าๆหมด พอเห็นตัวเลขในบัญชีที่คืนได้ แต่เกิดความเสียดายความตระหนี่ เข้าครอบงำจิตใจ รู้สึกขึ้นมาว่าอยู่ในบัญชี ก ู แปลว่าเงิน ก ู เรื่องอะไรจะให้มันหายไปอยู่ในมือคนอื่น

ความสำคัญมั่นหมายว่า ของ ก ู ทั้งๆที่ไม่ใช่นั่นแหละ คือมุขเด็ดที่กิเลสบงการให้ก่อบาปกันดื้อๆ ผลทันทีคือมีจิตอ่อนแอ คิดอะไรแบบ เ ด็ กๆ อยู่บนเส้นทางของคนเหลวไหล ข้างหน้าจึงสมควรกับ ช ะ ต า ที่ดูเหลวไหลไร้เหตุผล

วันหนึ่งเหมือนมีทรัพย์ที่ยั่งยืน อีกวันกลับมลายหายไปราวกับความฝัน เป็นต้น บางคนยืมด้วยความตั้งใจไม่คืนตั้งแต่แรก แต่มาหว่านล้อมล่อหลอกว่าจะคืน พร้อม ด อ ก เบี้ยมหาศาลบานตะไทที่มายืมตรงนี้ก็เพียงเพราะ

อ ย า ก ประชดแบงก์ที่ ก ู้ย า ก ก ู้เย็นนัก อันนี้ผิดศีลข้อ ๒ เต็มๆ เพราะขึ้นต้นด้วยเจตนาถือเอาทรัพย์ ที่เจ้าของมิได้ยกให้ และการผิดแบบนี้แถมพกข้อ ๔ มาด้วย ฉะนั้น ในที่ที่ ก ร ร ม เผล็ดผล โทษสถานเบาในโลกมนุษย์ คือต้องเหมารวมทั้งผลของ

การผิดข้อ ๒ และ ๔ รวมกันสองกระทง ผลของข้อ ๒ คือเป็นผู้มีทรัพย์พินาศด้วยเหตุ ร้ า ย ผลของข้อ ๔ คือเป็นผู้ถูกหลอกลวง ถูกใส่ ร้ า ย พูดง่ายๆว่า มีสิทธิ์เสียทั้งทรัพย์ เสียทั้งชื่อเสียง ด้วยการถูกใส่ ร้ า ย ใส่ไคล้

หรือถูกต้มตุ๋นล่อลวงได้ ส า ร พัด แต่ข้อเท็จจริง เป็นเช่นที่พระพุทธเจ้าตรัส คือ คนโกหกเป็นนิตย์ ที่จะทำชั่ วอะไรไม่ได้นั้นไม่มี ยิ่งถ้ามาถึงขั้นโกหกเพื่อเชิดเงินคนอื่นได้ ทำให้เขาเดือดร้อนหน้าตาเฉยได้ ก็แปลว่าต้องทำบาป

ร้ า ย กาจได้หนักกว่านี้ไปเรื่อยๆ ฉะนั้น โทษทัณฑ์ที่แท้จริง ก่อนจะมีสิทธิ์ได้กลับมาเป็นมนุษย์ จึงน่ากลัวกว่าที่เราเห็นๆ กันขณะเป็นมนุษย์ ในฐานะคนถูกโกง ก็ต้องระลึกด้วยว่า เกม ก ร ร ม ยังไม่จบ คนถูกโกงก็ต้องมี ก ร ร ม

ในขั้นต่อไป เมื่อทวงแล้วไม่คืน เมื่อฟ้องแล้วไม่สำเร็จ เพราะมักไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรกัน ที่สุดก็เหลือ ก ร ร  ม ทางใจ จะคุม แ ค้น  อ ย า ก ลงมือแก้ แ ค้ น ให้หายเ จ็ บ ใจ หรือจะเลือกเชื่อว่านี่เป็นโอกาสดี ชาตินี้ได้รู้จักศาสนาที่สอนเรื่องเหตุและผล

ทำเหตุอย่ างไรมา ก็ต้องได้ผลอย่ างนั้นบ้าง รู้แล้วเราจะเลือกต่อ เ ว รหรือหยุด เ ว ร ทางโลกเหมือนยกให้เขาได้เงินไปฟรีๆ แต่ทางธรรมคือยกหนี้ก รรมให้เขารับไปแบกแทน ในเมื่อมีตัว ต า ย ตัวแทนมารับช่วงถึงที่ เราสมควรแ ค้ นเคืองหรือขอบคุณ

ขอขอบคุณที่มา ดังตฤณ, shareganpai

Check Also

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า

15 ประโยค เหล่านี้ที่ไม่ควรพูดกับหัวหน้า 1 งานนี้ไม่ใช่งานในความรับผิดชอบ แม้ไม่ใช่งาน ในค…